สว่านไฟฟ้าไร้สาย
ทำความรู้จักเกี่ยวกับ 'สว่านไร้สาย' เครื่องมือช่างที่ควรมีติดบ้าน
สว่านไร้สาย หรือสว่านแบตเตอรี่ คือเครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับงานเจาะ และทำหน้าที่เป็นไขควงในการขันน็อต และสกรูต่างๆ โดยอาศัยพลังงานที่เก็บไว้จากแบตเตอรี่ ไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟในการทำงาน ทำให้มีความสะดวกสบาย และตอบโจทย์ต่อการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสว่านไร้สาย แบ่งออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ สว่านไร้สายธรรมดาที่ใช้ในงานบ้านงานช่างทั่วไป สว่านไร้สายแบบกระแทกที่นิยมใช้กับวัสดุหนักและมีความแข็งสูง และสว่านไร้สายโรตารีที่เหมาะสำหรับใช้งานเบา อย่างการขันน็อตและสกรูเป็นหลัก
ความแตกต่างระหว่าง สว่านไร้สาย และสว่านไฟฟ้า
- ความแรงในการใช้งาน
สว่านไร้สายและสว่านไฟฟ้าถือเป็นเครื่องมือช่างที่มีหน้าที่สำหรับงานเจาะเหมือนกัน เพียงแต่จะมีความแตกต่างในเรื่องของแหล่งที่มาของแรงในการใช้งาน โดยสว่านไร้สายจะอาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ ระดับความแรงในการใช้งานจึงขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ในแต่ละรุ่น รุ่นที่มีแบตเตอรี่สูงจะมีระดับความแรงในการเจาะสูง มีแรงบิดสูงและคงที่ ในขณะที่สว่านไฟฟ้าจะมีสายไฟเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟขณะใช้งาน จึงมีระดับความแรงในการใช้งาน รวมถึงแรงบิดที่สูงและคงที่มากกว่าสว่านไร้สาย
- น้ำหนักของสว่าน
สว่านไร้สายจะมีน้ำหนักมากกว่าสว่านไฟฟ้าเล็กน้อย เนื่องจากจะมีส่วนน้ำหนักของแบตเตอรี่ที่บวกเข้ามา แต่ในปัจจุบันสว่านไร้สายรุ่นใหม่ ๆ มักใช้แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดเล็กกว่าแบตเตอรี่รุ่นเก่า ในขณะที่ยังคงระดับความแรงในการใช้งานเท่าเดิม จึงทำให้น้ำหนักของสว่านไร้สายรุ่นใหม่แทบไม่ต่างจากสว่านไฟฟ้าเลย
- ความสะดวกต่อการใช้งาน
จุดเด่นของสว่านไร้สาย คือความสะดวกในการพกพาใช้งานอย่างแท้จริง เพราะไม่มีสายไฟและไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟขณะใช้งาน ทำให้มีความคล่องตัวและเป็นอิสระมากกว่าสว่านไฟฟ้า อีกทั้งยังเหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่จำกัด ใช้งานนอกสถานที่ใช้ในสถานที่ที่ไฟฟ้าไปไม่ถึง รวมถึงใช้งานในขณะฝนตกได้โดยไม่ต้องกลัวไฟดูดหรือไฟช็อตอีกด้วย
ส่วนประกอบสำคัญของสว่านไร้สาย
- ส่วนหัวของสว่านไร้สาย
ส่วนหัวของสว่านไร้สาย ทำหน้าที่สำหรับยึดจับดอกสว่าน มีทั้งแบบใช้มือหมุนและแบบที่ใช้จำปา ช่วยขันหัวจับดอกสว่านให้แน่นขึ้น
- ส่วนตัวของสว่านไร้สาย
ตัวเครื่องสว่านไร้สายมีลักษณะคล้ายกับปืน ทำหน้าที่เป็นด้ามจับในยึดถือให้มั่นคง และส่วนประกอบของแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งพลังงานในการทำงานหลักของสว่านไร้สาย ซึ่งอยู่ส่วนล่างสุดของตัวเครื่องสว่านไร้สาย
จะเลือกซื้อสว่านไร้สาย อย่างไรไม่ให้พลาด!
- เลือกซื้อสว่านไร้สายจากประเภทการทำงาน
หากมองหาสว่านไร้สายในการใช้งานทั่วไป เช่น ใช้สำหรับขันน็อต สกรู หรือใช้งานเจาะวัสดุประเภทไม้ เหล็ก และอลูมิเนียม สว่านไร้สายรุ่นปกติก็ตอบโจทย์เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่หากท่านใดที่ต้องการใช้งานสว่านไร้สายสำหรับงานช่างและงานเจาะวัสดุที่มีระดับความแข็งสูงมาก อย่างคอนกรีต อิฐ หินชนิดต่าง ๆ การเลือกใช้สว่านไร้สายแบบกระแทกจะมีความเหมาะสมมากกว่า
- เลือกซื้อสว่านไร้สายจากกำลังโวลต์ที่เหมาะสม
สว่านไร้สายทุกรุ่นจะมีรายละเอียดกำลังไฟเป็นโวลต์ (V) ระบุไว้เสมอ โดยสว่านไร้สายแบบที่ใช้งานทั่วไปภายในบ้านมักมีกำลังโวลต์ที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 12 ถึง 21 โวลต์ หากพบว่าสว่านไร้สายมีกำลังโวลต์ที่ต่ำกว่านั้น แสดงว่าเหมาะกับงานเบา ๆ อย่างงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ หรือไขน็อต ไขสกรูขนาดเล็ก เป็นต้น สว่านไร้สายที่มีกำลังไฟสูงกว่า 18 โวลต์ ขึ้นไป จะเป็นสว่านไร้สายแบบกระแทก นิยมใช้งานหนัก งานช่าง และงานก่อสร้าง
- เลือกซื้อสว่านไร้สายจากแบตเตอรี่
สว่านไร้สายมีทั้งแบบที่ใช้งานแบตเตอรี่นิกเกิลและแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ควรพิจารณาเลือกซื้อสว่านไร้สายแบบแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนจะดีที่สุด เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน เมื่อใช้งานเสร็จ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เลยไม่ต้องรอจนกว่าแบตเตอรี่หมด อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบากว่าสว่านไร้สายแบบแบตเตอรี่นิกเกิลรุ่นเก่าอีกด้วย
สว่านไร้สาย รุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ KOVET
- สว่านไร้สาย ไขควงไฟฟ้า ขนาด 10 มม. (12V) รุ่น KV-1203D
สว่านไร้สายรุ่นอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับกำลังไฟ 12 โวลต์ มีช่องระบายความร้อนมอเตอร์ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด จับถือถนัดมือ น้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น ที่สำคัญ แบตเตอรี่เป็นแบบลิเทียมไอออน มีอายุการใช้งานได้ยาวนาน ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่แค่ 1 ชั่วโมง ก็เต็มแล้ว
- สว่านไร้สาย ไขควงกระแทก ขนาด 10 มม. รุ่น KV-2001H
สว่านไร้สายแบบกระแทกที่สามารถปรับโหมดการใช้งานได้อย่างอิสระ ทั้งโหมดกระแทก โหมดธรรมดา และโหมดปรับขันสกรู มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 18V ตอบโจทย์กับการใช้ในงานที่หลากหลาย รองรับงานเจาะกระแทก มีแรงบิดสูง และถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด มีความคล่องตัวในการใช้งานในพื้นที่จำกัด มีไฟ LED ส่องสว่างให้ในพื้นที่สภาวะแสงน้อย
